ข้อค้นพบแผนลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ “ข้อมูลชุมชน ฟื้นคน ฟื้นห้วยคลิตี้”

เรียบเรียงโดย ธนกฤต โต้งฟ้า อาสาสมัครนักกฎหมาย  EnLAW

จากกระบวนการทำข้อมูลชุมชนของชุมชนบ้านคลิตี้ล่าง ช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2558 ที่ผ่านมาได้นำมาสู่การสื่อสารสาธารณะ โดยได้สรุปจาก รายการเวทีสาธารณะ ตอน “ข้อมูลชุมชน ฟื้นคน ฟื้นห้วยคลิตี้” เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2559 ทางสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS ดังนี้
klitytpbs002
ประเด็นที่ 1      ความคืบหน้าแผนการดำเนินงานกรมควบคุมมลพิษ
            ตั้งแต่ปี 2546 หลังจากที่กรมควบคุมมลพิษได้รับคำสั่งจากศาล ก็ไปตรวจสอบลงพื้นเป็นระยะมาโดยตลอด หลังจากมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ก็ได้เริ่มดำเนินการทำตามคำพิพากษาศาล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 เป็นต้นมา จ่ายเงินชดเชยให้ชาวบ้าน ทั้ง 22 ราย ลงพื้นที่ทุกเดือนเพื่อตรวจสอบปัญหามลพิษและว่าจ้างมหาวิทยาลัยขอนแกน ในการมาศึกษาหาแนวทางการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จนได้แผนปฏิบัติการเพื่อแก้ไขการปนเปื้อนสารตะกั่วในลำห้วย แล้วเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2558 ใช้งบประมาณกว่า 590 ล้านบาท ได้แก่ 5 แผนงานหลักดังนี้

  1. แผนฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ และบริเวณโรงแต่งแร่และใกล้เคียงรวมระยะทาง 28 กิโลเมตร
    แบ่งออกเป็น 7 ช่วงดังนี้

    • ช่วงที่ 1 เฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
    • ช่วงที่ 2 ดูดตะกอนทั้งช่วง และสร้างฝายเพิ่มเติม (ป่าช้ามอญ)
    • ช่วงที่ 3 ดูดตะกอนสะสมหน้าฝายเดิม KC4
    • ช่วงที่ 4 ดูดตะกอนสะสมหน้าฝายเดิม KC4/1
    • ช่วงที่ 5 สร้างฝายใหม่และดูดตะกอนสะสมหน้าฝาย (โบสถ์คลิตี้ล่าง)
    • ช่วงที่ 6 ดูดตะกอนทั้งช่วง
    • ช่วงที่ 7 เฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

    ช่วงที่เหลือทางกรมควบคุมมลพิษไม่ได้ฟื้นฟูแต่จะติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนของตะกอนตะกั่วอย่างต่อเนื่อง โดยให้เหตุผลว่าบริเวณดังกล่าวมีชาวบ้านอาศัยอยู่ไม่มาก โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่เกษตรกรรม ส่วนบริเวณที่เป็นพื้นที่ป่าสงวนก็กำลังดำเนินการขออนุญาตและทำตามระเบียบเงื่อนไขตามกฎหมาย

  2. แผนติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม
  3. แผนด้านสุขภาพ
  4. แผนด้านสังคมและเศรษฐกิจ
  5. แผนติดตามประเมินการดำเนินการ

klitytpbs004
ประเด็นที่ 2      มาตรการรองรับระหว่างมีการฟื้นฟูของหน่วยงานรัฐ

  • ประสานกรมทรัพยากรน้ำ เพื่อทำประปาหมู่บ้าน
  • การดูดแบบปลอดภัย
  • การดุดตะกอนใช้วิธีการขุดแบบปลอดภัย เครื่องจักรเล็ก
  • มีม่านปิดกันการฟุ้งกระจายของดิน 3 ชั้น เพื่อตรวจเช็คปริมาณตะกอน
  • ในการดำเนินงานจะแจ้งชาวบ้านก่อน

สาเหตุที่ดูดแค่ 2 จุด เพราะเป็นพื้นที่ชุมชนอาศัยอยู่ สามารถเข้าไปได้ส่วนพื้นที่ได้ ในช่วงอื่นเป็นพื้นที่เข้าถึงยาก และเป็นที่เขตป่าตามกฎหมาย และมีแผนในเรื่องการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวในประเทศไทยอีก ทำให้เกิดเป็นกลไกลหรือมาตรการทำให้มีการเยี่ยวยาจากผู้ก่อมลพิษ กระบวนการที่ทำให้ผู้ก่อมลพิษรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น
klitytpbs001
ประเด็นที่ 3      แผนรองรับเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพของหน่วยงานภาคประชาสังคม

  • กระบวนการเตรียมความพร้อมเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพของชาวบ้าน

การทำงานของของชาวบ้านและเยาวชนเพื่อเป็นการสนับสนุนข้อมูลชุมชนในการเสนอให้เข้าไปอยู่ในแผนการฟื้นฟูของกรมควบคุมมลพิษ ทั้งแผนที่การใช้ประโยชน์ในลำห้วยแผนที่ระบาดวิทยา แผนผังเครือญาติ  แสดงให้เห็นถึงวิถีการดำรงชีวิตของชาวบ้านจากการที่ชาวบ้านทำกันเอง  ส่วนประปาภูเขาก็ไม่ตอบโจทย์การใช้น้ำของชาวบ้านทั้งหมด

  • กระบวนแผนที่ระบาดวิทยา

เป็นการแสดงให้เห็นถึงปัญหาเรื่องของการปนเปื้อนสารตะกั่วในร่างกายของมนุษย์ในสถานการณ์ปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะเชื่อมโยงกับแผนที่ผังเครือญาติ เพราะเป้าหมายของการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้นั้นเพื่อนำไปสู่การทำให้ชาวบ้านสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมและสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ดังนั้นตัวชี้วัดจึงเป็นสุขภาพของเนื่องจากชาวบ้านไม่ได้รับการตรวจสารตะกั่วมาหลายปี จึงต้องให้มีกระบวนการให้ชุมชนรู้ปัญหาสุขภาพของตัวเอง โดยการมานำเสนอแลกเปลี่ยนพูดคุยกับหน่วยงานด้านสุขภาพ เพื่อหาทางที่จะลดความเสี่ยงและเฝ้าระวังสุขภาพของชาวบ้าน
klitytpbs003
ประเด็นที่ 4      ข้อเสนอต่อระบบการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อน 
สมพร เพ็งค่ำ : นักวิจัยสมทบ สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  • ชุมชนแสดงให้เห็นว่าชุมชนสามารถมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูลำห้วยได้ จากการทำแผนที่ชุมชนที่แสดงถึงประโยชน์การใช้น้ำแผนที่ระบาดวิทยา ผังเครือญาติ ดังนั้น กรมควบคุมมลพิษควรนำชาวบ้านเข้าไปมีบทบาท รับฟังชาวบ้านและเปิดโอกาสให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมกับกรมควบคุมมลพิษในกระบวนการฟื้นฟูลำห้วยให้มากขึ้น
  • กลไกลที่เรามีอยู่ในปัจจุบันไม่พร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวจากกรณีคลิตี้ แม้กรมควบคุมมลพิษจะพยายามอย่างเต็มที่ในการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้แต่ปัญหาอยู่ที่อำนาจในการสั่งการของกรมควบคุมมลพิษ ที่ไม่สามารถไปสั่งกระทรวงสาธารณสุข กรมวิชาการเกษตร หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการร่วมตามแผนกรมควบคุมมลพิษได้  ดังนั้นจากกรณีคลิตี้ต้องนำไปเป็นบทเรียนในประเทศไทย ในเรื่องการก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวสามารถมาทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นระบบ
  • แผนที่กรมควบคุมมลพิษทำมาแล้วต้องมีการเสนอเพื่อให้มีผลผูกพันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือมีกฎหมายเฉพาะ ในการรับตรงนี้ไปปฏิบัติเป็นต้นแบบที่สามารถนำไปเป็นบทเรียนให้กับประเทศไทยได้ เช่น มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มติคณะรัฐมนตรี เป็นต้น อาจจะต้องมีการระบบกลไกใหม่ที่สามารถทำงานร่วมกันได้ทั้งระบบ
  • คลิตี้จะเป็นบทเรียนที่ดีในเรื่องของการมีส่วนร่วมของชุมชนได้ ต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่กระบวนการให้ความเห็นต่อแผนฟื้นฟูต่างๆ ของชุมชน เช่น กรณีการทำข้อมูลชุมชน เป็นต้น

 
สุรชัย ตรงงาม : เลขาธิการมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW)

  • ตามกฎหมายเมื่อหมดสัญญาการทำเหมืองแล้ว เจ้าของเหมืองและทางผู้ที่ได้ขอใบอนุญาตต้องมีหน้าที่ฟื้นฟูบริเวณดังกล่าวให้นำป่าไม้กลับมาสู่สภาพเดิมตามกฎหมาย เช่น เดิมเป็นพื้นที่เป็นป่าสงวน ถ้าใบอนุญาตหมดสัญญาแล้ว ต้องกลับมาเป็นพื้นที่ป่าสงวนของกรมป่าไม้เช่นเดิม
  • กรณีของคลิตี้จะเป็นคลิตี้โมเดลเพื่อเป็นองค์ความรู้ในเรื่องการเยียวยาความเสียหายเกี่ยวกับเรื่องปัญหามลพิษในสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยเป็นกรณีแรกๆ ซึ่งจะเป็นกรณีตัวอย่างอีกหลายกรณี ทำให้เราเห็นถึงข้อจำกัด ในเชิงกฎหมายที่อาจจะต้องมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพื่อการคุ้มครองสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมเป็นจริงได้

 
นายแพทย์อรรถพล ชีพสัตยากร : ผอ.สำนักป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จ.ราชบุรี กรมควบคุมโรค

  • เพื่อให้กระบวนการทำแผนที่ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพละเอียด มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเกิดการมีส่วนร่วมกับภาครัฐ ชุมชนควรมองถึงหน่วยงานที่เกี่ยวให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการดังกล่าวด้วย

 
สุรพงษ์ กองจันทึก: ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษากะเหรี่ยงพัฒนา

  • ควรปรับระบบอำนาจความยุติธรรมของไทย เพื่อให้การบังคับคดี มีความรวดเร็ว ตรงกับที่ศาลสั่ง ให้ผู้มีอำนาจระดับสูงเข้ามารับอำนาจและสั่งการตามคำสั่งศาล

 
ณาตยา แวววีรคุปต์ : ผู้ดำเนินรายการ

  • ปัญหาเกิดจากระบบของกฎหมาย แม้จะมีคำพิพากษาของศาลปกครองให้กรมควบคุมมลพิษฟื้นฟูลำห้วย แต่ในกระบวนการดำเนินการกรมควบคุมมลพิษ ต้องประสานกับหน่วยงานราชการหลายๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการร่วมตามแผนกรมควบคุมมลพิษ ตรงนี้เป็นข้อเสนอเชิงระบบที่จะต้องสร้างกระบวนการของรัฐที่จะสนองต่อคำพิพากษาศาลปกครองหรือเจตนาการฟื้นฟูลำห้วยด้วยความทุ่มเท
  • ต้องเพิ่มเติมกลไกลที่จะทำให้การทำงานสอดรับกันทั้งกระบวนได้อย่างเป็นระบบและได้คล่องมากขึ้น

 

—————————————————–

ภาพและคลิปรายการเวทีสาธารณะ “ข้อมูลชุมชน ฟื้นคน ฟื้นห้วยคลิตี้”

ดาวน์โหลดเอกสาร: ข้อค้นพบแผนลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ“ข้อมูลชุมชน ฟื้นคน ฟื้นห้วยคลิตี้” (PDF)

บทความที่เกี่ยวข้อง