บังคับใช้แล้ว: พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558

 
สืบเนื่องจากที่ได้มีการตราพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 และมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป ซึ่งกฎหมายฉบับดังกล่าวได้กำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการใช้เสรีภาพการชุมนุมสาธารณะที่ประชาชนต้องปฏิบัติตาม และมีการกำหนดโทษทางอาญาไว้สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวในหลายประการ

IMG_4188_resize
38 องค์กรเครือข่ายภาคประชาชนยื่นหนังสือขอให้ สนช. ยุติการพิจารณาร่างกฎหมายการชุมนุมสาธารณะ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2558

ในเบื้องต้น มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) จึงขอเผยแพร่พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ให้แก่ประชาชนได้ศึกษาทำความเข้าใจเพื่อใช้ความระมัดระวังในการจัดการชุมนุมหรือเข้าร่วมการชุมนุมสาธารณะไม่ให้มีการกระทำผิดต่อกฎหมาย
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ได้มีการกำหนดโทษไว้ 9 กรณีด้วยกัน ดังปรากฏในมาตรา 27-35 มีรายละเอียดดังนี้  (*สรุปและเรียบเรียงโดย วราภรณ์ อินทนนท์ สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน)

  •           ผู้จัดชุมนุมในพื้นที่และรัศมีที่ห้ามจัด หรือ มีการจัดการชุมนุมกีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการใช้บริการในสถานที่ทำการหน่วยงานของรัฐ ท่าอากาศยาน ท่าเรือ สถานีรถไฟหรือสถานีขนส่งสาธารณะ โรงพยาบาล สถานศึกษา ศาสนสถาน สถานทูต หรือ สถานกงสุลของรัฐต่างประเทศ หรือ สถานที่ทำการขององค์การระหว่างประเทศ และสถานที่อื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 27)

 

  •          ผู้จัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุมสาธารณะ หรือจัดขึ้นภายหลังจากที่ผู้ยื่นคำขอได้รับหนังสือแจ้งว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรให้ผ่อนผันกำหนดเวลา หรือเดินขบวนเคลื่อนย้ายการชุมนุมโดยไม่มีการแจ้งว่าจะมีการเดินขบวน หรือไม่เลิกการชุมนุมในเวลาที่แจ้งไว้ต่อผู้รับแจ้ง ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท (มาตรา 28)

 

  •          ผู้จัดการชุมนุมหรือผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชุมนุมหรือจัดให้มีการชุมนุมระว่างมีคำสั่งห้ามชุมนุม ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 29)

 

  •          ผู้จัดการชุมนุมที่ไม่ดูแลรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะให้เป็นไปโดยสงบ ไม่ดูแลผู้ชุมนุมปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ชุมนุม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท (มาตรา 30)

 

  •           ผู้จัดการชุมนุมซึ่งไม่ให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลการชุมนุม หรือยุยงส่งเสริมให้ผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ชุมนุมหรือปราศรัยด้วยเครื่องขยายเสียงในระหว่างเวลาที่ต้องห้ามหรือใช้เครื่องขยายเสียงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือผู้ชุมนุมที่พกพาอาวุธเข้าไปในที่ชุมนุมหรือบุกรุกทำให้เสียหาย ทำลายแก่ชีวิต ทรัพย์สิน หรือเสรีภาพ หรือใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้เข้าร่วมชุมนุม หรือผู้อื่น หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 31 วรรค 1) // ถ้าการกระทำการดังกล่าวเป็นการรบกวนต่อระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบการสื่อสาร โทรคมนาคม การส่งกระแสไฟฟ้า ประปา หรือระบบสาธารณูปโภคอื่นใดให้ใช้การไม่ได้ไม่ว่าจะชั่วคราวหรือถาวร ผู้จัดการชุมนุมต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10ปี ปรับไม่เกิน 200,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 31 วรรค 2)

 

  •           ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือประกาศของเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมหรือประกาศของเจ้าหน้าที่ ที่ให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ควบคุมภายในเวลากำหนด และเข้าไปในพื้นที่ห้ามเข้าซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุม ถ้าเป็นผู้จัดการชุมนุมหรือผู้ชุมนุมต้องระวางโทษไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000บาทหรือทังจำทั้งปรับ แต่ถ้าเป็นผู้อยู่ในสถานที่ชุมนุม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ในกรณีที่ศาลเห็นสมควรศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กำหนดหรือไม่ลงโทษก็ได้ (มาตรา 32)

 

  •           ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ควบคุมสถานการณ์การชุมนุมตามมาตรา 24 หรือ มาตรา 25 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่ศาลเห็นสมควรศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กำหนดหรือไม่ลงโทษก็ได้ (มาตรา 33)

 

  •          ผู้ใดไม่ได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานซึ่งดูแลการชุมนุม หรือผู้ควบคุมสถานการณ์การชุมนุมให้ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ พาอาวุธเข้าไปในที่ชุมนุม ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตให้มีอาวุธติดตัวหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าอาวุธนั้นเป็นปืน วัตถุระเบิด หรือวัตถุอื่นใดที่มีสภาพคล้ายคลึงกัน ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 34)

 

  •           สำหรับทรัพย์สินที่ใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ในการชุมนุม ที่ยึดไว้จากการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือที่ไม่เลิกการชุมนุมตามคำสั่งศาลให้ศาลมีอำนาจสั่งริบเสีย ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ (มาตรา 35)

 

ดาวน์โหลดพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558

 
PublicAssembly_Act2015

ข่าวสารที่เกี่ยวข้อง