วันที่ 23 พ.ย.63 เวลา 10.30 น. ณ ศาลปกครอง :เครือข่ายประชาชน 3 จังหวัด ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี ยื่นหนังสือถึงประธานศาลปกครองสูงสุด เพื่อสอบถามความคืบหน้าและขอให้เร่งรัดการพิจารณารับฟ้อง คดีขอเพิกถอนแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน EEC เปลี่ยนผังเมืองสีเขียวเป็นอุตสาหกรรม
นับจากวันที่ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 16 ก.ค.63 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันระยะเวลาได้ล่วงเลยมากว่า 4 เดือน หลังจากที่เครือข่ายประชาชน 3 จังหวัด ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและคณะรัฐมนตรีต่อศาลปกครองสูงสุด เป็นคดีหมายเลขดำที่ ฟส.6/2563 เพื่อขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2562 และขอให้ศาลกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองดำเนินการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) และให้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยให้ผู้ฟ้องคดีและชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวนการอย่างมีความหมายก่อนการจัดทำแผนผังขึ้นใหม่ เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ สิทธิการดำรงชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ประโยชน์สาธารณะ และป้องกัน แก้ไข เยียวยาความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดีและประชาชนทุกคน
แต่ปัจจุบันศาลปกครองสูงสุดยังไม่มีคำสั่งรับฟ้องคดีนี้แต่อย่างใด จึงอาจขัดกับคำแนะนำของประธานศาลปกครองสูงสุดในการดำเนินคดีปกครองเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับการพิจารณาความสมบูรณ์ครบถ้วนของคำฟ้อง ที่ศาลพึงพิจารณาความสมบูรณ์ครบถ้วนของคำฟ้อง และพึงลดและเร่งรัดขั้นตอนการดำเนินกระบวนพิจารณาและงานธุรการคดี เพื่อให้คดีแล้วเสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้แล้วตามนโยบายประธานศาลปกครองสูงสุด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 “ปีแห่งการพัฒนาการอำนวยความยุติธรรมทางปกครองให้เป็นไปตามมาตรฐานอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล” มีสาระสำคัญที่กำหนดในข้อ 2.2 ว่า “พัฒนาการอำนวยความยุติธรรมทางปกครองในข้อพิพาทที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงในการปกป้องคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม”
เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก 3 จังหวัด เห็นว่าคดีฟ้องเพิกถอนแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน EEC ถือว่าเป็นคดีสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งหากระยะเวลาการพิจารณาคดีมีความล่าช้า จะมีผลต่อการอำนวยความยุติธรรมเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและการปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อม จึงได้ยื่นหนังสือถึงประธานศาลปกครองสูงสุดในวันนี้ เพื่อขอให้พิจารณาสอบถามข้อขัดข้องและหรือเร่งรัดการพิจารณาคดีนี้โดยเร็ว เพื่อคุ้มครองสิทธิการดำรงชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีของผู้ฟ้องคดีและประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันเป็นประโยชน์สาธารณะ
การฟ้องคดีนี้ สืบเนื่องมาจากประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลตามกฎหมายเป็นการยกเลิกผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองที่ใช้บังคับอยู่เดิมทั้งหมดในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ระยอง และชลบุรี และให้บังคับใช้แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินตามประกาศฯ ดังกล่าวแทนที่ผังเมืองรวมเดิม อันมีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการใช้ประโยชน์พื้นที่ไปจากเดิม ไม่สอดคล้องกับระบบนิเวศ ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต และภูมิปัญญาอันหลากหลายของชุมชนและสังคม
________________________________________________________
อ่านเพิ่มเติม
สรุปประเด็นการยื่นคำฟ้องเพิกถอนประกาศแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ฯ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต่อศาลปกครองสูงสุด
https://enlawfoundation.org/eeccityplancase-inbrief/
เปิดไทม์ไลน์สถานะคดีฟ้องเพิกถอน “ผังเมือง EEC”
https://enlawfoundation.org/timeline-eec-11-2563/
Eastern local communities filed lawsuit to revoke EEC land use planning
https://enlawfoundation.org/eastern-local-communities-filed-lawsuit-to-revoke-eec-land-use-planning/
เปิดผลกระทบ “ผังเมือง EEC” : ทำลายระบบนิเวศ และวิถีชีวิตของประชาชน
https://enlawfoundation.org/recap-eec-2564-02/
เปิดคำฟ้องเพิกถอน “ผังเมือง EEC” : การพัฒนาของรัฐที่ทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง
https://enlawfoundation.org/recap-eec-2564-01/